จักรวาลทั้งปวงอนุมัติแล้ว และพระเจ้าประทานพลัง แก่พระพุทธเจ้า เพื่อช่วยจิตวิญญาณนับไม่ถ้วน พระพุทธเจ้า อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้น! ตอนที่ 2 จาก 10 ตอน

พระพุทธเจ้าไม่ใช่ตำแหน่ง เป็นคำที่มีคุณความดี บุญกุศล ความเสียสละ ความรัก ความกรุณา ความเมตตามากมาย ผสมผสานกัน และอีกมากมาย รวมถึงปัญญาด้วย ไม่ใช่ตำแหน่ง ดังนั้นแม้ว่าพระเทวทัตจะประกาศ นามของตนเองว่า “พระพุทธเจ้า” หรือสาวกโง่ ๆ คนใด จะติดตามเขาไปและยินยอมตามนั้น เขาก็ไม่มีอะไรเลย! เขาไม่มีพลังของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงอวยพรผู้คน พวกเขาได้รับการปลดปล่อย พระเทวทัตล่อคนเข้ามา พวกเขาทั้งหมดตกนรกไปพร้อมกับเขา! สาวกทุกคนควรจำสิ่งนี้ไว้ ลูกศิษย์ทุกคน คุณควรรู้ระดับของคุณ และอย่ากระทำการอันเป็นภัย แก่ผู้อื่นด้วยการอวดอ้าง ความสำเร็จของคุณเมื่อ คุณยังไม่ถึงระดับนั้น

เขา (พระเทวทัต) ไม่สามารถทำอะไร เพื่อช่วยเหลือใครได้ แม้แต่การยกเส้นผมเพียงเส้นเดียว ขึ้นจากที่ไกล ๆได้ ในเขตเดียวกัน ไม่ต้องพูดถึง ในประเทศที่ห่างไกล แต่นั้นคือพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทำได้ทั้งหมดนั้น แม้แต่พระโพธิสัตว์บางองค์ ก็สามารถทำได้แล้ว เรามีเรื่องราวมากมายใน ตำนานพุทธศาสนา และฉันได้ อ่านให้คุณฟังมากมายแล้ว เช่นเดียวกับนิทานพื้นบ้าน ของศาสนาอื่น ๆ อีกมากมาย เราก็มีมากมายเช่นกัน ฉันได้อ่านให้คุณแล้ว จึงไม่ใช่พระพุทธเจ้าเพียงผู้เดียว นักบุญและนักปราชญ์จำนวนมาก เสียสละเพื่อความรัก เพื่อความรู้สึกสงสารสิ่งมีชีวิต และก็เพราะว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดให้พวกท่าน ลงมายังโลกที่ยากลำบาก และทุกข์ทรมาน เพื่อช่วยเหลือ พี่น้องชายหญิงคนอื่น ๆ ใน ระบบลำดับชั้นของพระเจ้า

ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง – โอ้พระเจ้า! แม้ว่าคุณคิดว่าคุณเป็นพระพุทธเจ้า แต่คุณไม่มีอะไรเลย! คุณจะเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร เมื่อคุณไม่รู้อะไรเลย? และบางครั้ง คุณอาจจะต้องพึ่ง ระบบบางอย่างเพื่อให้มีข้อความ จากพระพุทธเจ้า เป็นต้น – แต่ถ้าคุณต่ำเกินไป คุณก็ไม่สามารถได้ยินได้ดีด้วยซ้ำ หรือระดับต่ำของคุณ จะดึงดูดแต่ปีศาจเท่านั้น ผู้ที่มีความสุขมาก ป้อน อัตตา อันทะเยอทะยานของคุณ ด้วยขยะแล้วหัวเราะเยาะคุณ! คุณทำผิดพลาดทั้งหมด คุณได้ยินผิดทั้งหมด และคุณคัดลอกมันมาผิดทั้งหมด แล้วคุณก็อาจจะเผยแพร่สิ่งผิด ทั้งหมดให้กับผู้ศรัทธาทุกคน และทั้งหมดนั้นผิดด้วยกัน – นี่คือปัญหา เพราะว่าถ้าเราไม่มีการพัฒนา ทางจิตวิญญาณมากพอ เราก็จะทำสิ่งที่ผิดหลายอย่าง

คัดสรรมาจาก “พระพุทธเจ้าทรงถูกต้อง: การสิ้นสุดของธรรมะ อาจอยู่ใกล้มาก” พุทธะที่ยังมีชีวิตอยู่ ถูกจับกุมแล้ว : เกิดในดินแดนของเนปาล ที่งดงามและลึกลับ สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ราม บาฮาดูร์ บอมจอน เป็นที่รู้จักทั่วโลก ตอนที่เขาจากบ้านด้วยวัยแค่ 16 เพื่อเป็นพระ โด่งดังด้วยความสามารถ ในการทำสมาธิไม่เคลื่อนไหว นานหกเดือน โดยไม่กินหรือดื่ม บอมจอนได้รับการนับถือว่าเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณของเนปาล คนหลายพันคนจาก ทั่วไปหมดมาเพื่อพบและ สักการะเขา เห็นว่าเขาเป็น การกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้า และเรียกเขาว่า “เด็กชายพุทธะ” อย่างไรก็ตาม 20 ปีต่อมา หลายคนตกใจ เมื่อ “เด็กชายพุทธะ” ถูกจับกุมและ ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี สำหรับการล่วงละเมิดทางเพศและ ข้อหาที่ไม่คาดคิดอื่น ๆ

บอมจอน มักเป็นที่นับถือ ว่าเป็นพุทธะที่ยังมีชีวิตอยู่ ถูกจับกุมขณะพยายาม ที่จะหลบหนี ชายวัย 34 ปี ถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ เด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งเคยใช้ชีวิตเป็นแม่ชี ในอาศรมของเขามาก่อน ตำรวจระบุว่ามีพวกเขา ได้ติดตามบอมจอนอยู่ และจับกุมเขา ในขณะที่เขาพยายามจะหลบหนี แถมยังยึดโทรศัพท์มือถือ ได้มากกว่าสิบเครื่อง แล็ปท็อปและแท็บเล็ตห้าเครื่อง 30 ล้านรูปีเนปาล (ประมาณ 225,000 เหรียญสหรัฐ) และสกุลเงินต่างประเทศอื่น ๆ มูลค่า 22,000 เหรียญสหรัฐ

ข้อความที่ตัดตอนมาจาก “พระสงฆ์ถูกลงโทษ โดยวัดพุทธ” เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน คณะสงฆ์เวียดนาม ได้ประกาศลงโทษ ทางวินัยต่อพระภิกษุ พระติช จัน กวาง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกห้าม แสดงธรรมในรูปแบบใด ๆ หรือเป็นประธาน ในการชุมนุมขนาดใหญ่ที่ วัดเตี่ยนตนฝัดกวง หรือสถานที่อื่นใด เป็นเวลา 2 ปี การตัดสินนี้มาจาก การแจ้งจาก คณะกรรมการบริหาร สภาบริหารเวียดนาม คณะสงฆ์พุทธ เวียดนาม ตามประกาศดังกล่าว คณะสงฆ์เวียดนาม ได้รับการร้องเรียน จำนวนมากจากพุทธศาสนิกชน ประชาชน และสื่อมวลชน โดยระบุว่าคำสอน ของพระ ติช จัน กวาง ก่อให้เกิดความสับสนในสังคม ก่อให้เกิดปฏิกิริยาจากชุมชน ก่อให้เกิดความเสื่อมศรัทธา ในพระพุทธศาสนา และทำลาย ชื่อเสียงของคณะสงฆ์ พระติช จัน กวาง เป็นที่รู้จักในโซเชียลมีเดีย จากคำพูดที่ขัดแย้ง เกี่ยวกับกรรม การเรียกร้องเงินบริจาค และ การวิพากษ์วิจารณ์พระรูปอื่น ๆ ในแพลตฟอร์มโซเชียล เช่นยูทูป เฟซบุ๊ค และติ๊กต็อก คุณจะพบคำพูด ที่ขัดแย้งของเขาได้ง่าย คำพูดที่ก่อให้เกิดการโต้แย้ง ของพระติช จัน กวาง บางส่วน ได้แก่ “คุณต้องหา ธนบัตรมูลค่าสูง แล้วมอบให้กับเจ้าอาวาส เมื่อนั้น เจ้าอาวาสจึงจะประกอบ กิจทางศาสนาได้” “ทำไมคุณถึงมีใบหน้า ที่สวยงามเช่นนี้ ? ก็เพราะในอดีตชาติ คุณเคยเข้าร่วมพิธี หล่อรูปปั้น และยังได้ถวายเครื่องบูชาด้วย” “ผู้ที่มีหัวใจที่ศรัทธา ในศาสนาอย่างแท้จริง จะบริจาคบ้านของตน ให้กับวัดและ ย้ายไปอยู่ที่อื่น” และ “ผู้ที่ร้องเพลงคาราโอเกะบ่อย ๆ มีความเสี่ยงสูง ที่จะกลายเป็นผีใบ้ หลังจากตาย” หากพบว่านายติช จัน กวาง ละเมิดกฎระเบียบ จะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด ตามรายงาน ของหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน คำกล่าวของพระ ติช จัน กวาง ในวิดีโอออนไลน์ ไม่สอดคล้อง กับคำสอนของพุทธศาสนา กฎหมาย ประเพณีวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของเวียดนาม และเขาได้แก้ไขศีลต่าง ๆ ในพระรัตนตรัย สามประการของพระพุทธศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์ของเอาหลัก (เวียดนาม) และเขาได้เปลี่ยนแปลง ในใบรับรองพระรัตนตรัย ของพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน คณะสงฆ์เวียดนาม ได้ออกคำสั่ง ทางวินัยต่อพระ ติช นวน ดึ๊ก โดยห้ามไม่ให้เขา เทศนาในรูปแบบใด ๆ เป็นเวลาหนึ่งปี ตามคำกล่าวของคณะสงฆ์ คำกล่าวและคำเทศนา ของพระ (ติช) นวน ดึ๊ก จำนวนมากได้ กัดกร่อนศรัทธาของสังคม ในพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ ข้อความที่เป็น ข้อโต้แย้งของเขา ได้แก่ “ผู้หญิงบางคน สวดพระนามพระพุทธเจ้ามาก จนขาของพวกเขาเมื่อยล้า บ้างก็นุ่งกางเกง ขากว้าง เวลา ใครปล่อยนก นกก็บินเข้ากางเกง” “หลังจากสวด พระพุทธมนต์อยู่ เนิ่นนาน พวกเธอผู้หญิงกลายเป็น สวยงามมากและ ตอนเธอนั่นต่อหน้าฉัน ฉันอดน้ำลายไหลไม่ได้" และ "ถ้าคุณจะถวาย ก็จงถวายของอร่อย แล้วภิกษุไม่รับประทาน ของอร่อยหรือ?”

หลวงพ่อ ติช ตรุก ไท มินห์ เจ้าอาวาสเจดีย์บาหวาง ได้แถลง การกระทำ และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ที่ก่อให้เกิด ความโกลาหลในที่สาธารณะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงต้นปี 2024 พระ ติช ตรุก ไท มินห์ ถูกพระสงฆ์เวียดนาม ตำหนิ ว่าจัดนิทรรศการ "พระธาตุเกศาพระพุทธเจ้า" นอกจากนี้ เขาถูกปรับเป็น เงิน 7.5 ล้านดองเวียดนาม (300 เหรียญสหรัฐ) โดย คณะกรรมการประชาชนเมือง อ่องบี ในจังหวัดกว๋างนิงห์ ฐานละเมิดกฎหมาย ว่าด้วยความเชื่อและศาสนา โดยการจัดกิจกรรมนี้ หลังจาก (เหตุการณ์) นั้น พระติชตรุกไทมินห์ และ เจดีย์บาหว๋าง ได้รับคำสั่งไม่ให้ จัดงานแลกเปลี่ยน ระหว่างประเทศที่วัด เป็นเวลาหนึ่งปี ในช่วงหลายปี ที่ผ่านมา เจดีย์ บาหว๋างได้ จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเรียกวิญญาณและ กรรม "ชำระล้าง" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ต้องการชำระล้างกรรม ของตนต้องจ่าย เงินจำนวนมหาศาล กิจกรรมเหล่านี้ก่อให้เกิด การถกเถียงกันอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องนั่งสมาธิ ให้มาก ถ่อมตัว รู้สึกขอบคุณ จนกระทั่งพระเจ้าตรัสกับคุณ อย่างแท้จริงว่าคุณคือพระพุทธเจ้า และถึงอย่างนั้น มันก็ ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะออก ไปช่วยเหลือผู้อื่นเสมอไป เพราะคุณมีพลังไม่เพียงพอ คุณอาจช่วยชีวิตได้หนึ่งหรือสองคน ก็ขึ้นอยู่กับว่าผลบุญคุณมีเท่าไหร่ อำนาจใน "บัญชีธนาคาร” ของคุณมีมากน้อยเพียงใด และ "บัญชีธนาคาร" นั้น ก็สะสมอยู่ที่นั่น นานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้กี่กัปกัลป์ ดังนั้นอาจารย์ทุกท่านจึงต้อง ฝึกฝนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นเวลาหลายชั่วอายุคน หากพวกท่านเริ่มต้น จากจุดเริ่มต้น ไม่ใช่ว่าคุณไปถึง ระดับที่ห้าหรือ แม้แต่ต่ำกว่านั้นนิดหน่อย แล้วคุณก็มีบุญพอที่จะ กอบกู้โลกหรืออย่างน้อย ก็คนจำนวนหนึ่ง

หลายคนที่ มีประสบการณ์เฉียดตาย กลับมาและพวกเขา ยังรู้ว่านั่นคือ ระดับที่สี่ในระบบ ห้าระดับที่เรามี ที่มนุษย์เข้าถึงได้ มนุษย์ไม่สามารถเข้าถึง ทุกระดับในสวรรค์ สวรรค์ที่สูงกว่าได้ ดังนั้นจึงมีระดับที่ห้า ที่กำหนดไว้สำหรับอาจารย์ อาจารย์หลายคนต้อง พักผ่อนที่นั่นและ เตรียมตัวตัวเองหากพวกท่าน ถูกกำหนดให้เป็นอาจารย์ แล้วพระเจ้าจะประทานอำนาจ ให้พวกท่านมาก มาก มาก เพื่อว่าเมื่อพวกท่านลงมาแล้ว พวกท่านจะไม่ถูกฆ่า หรือถูกทำอันตรายทันที และพวกท่านมีเงินทุนเพียงพอ ที่จะช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ตามคำสั่งของพระเจ้า และตามกรรม ของพวกเขาด้วย

หากคุณก้าวหนึ่งก้าว อาจารย์จะเดิน 99 ก้าว กับคุณ เข้าหาคุณ และช่วยให้คุณเดินต่อไป ดังนั้น แม้ว่าเราจะนั่งสมาธิ แค่หนึ่งในสิบของวัน – สองชั่วโมงครึ่งในช่วง 24 ชั่วโมง นั่นก็คือหนึ่งในสิบ – นั่นคือหนึ่งในสิบที่แท้จริง ไม่ใช่เงินที่คุณ ต้องมอบให้กับโบสถ์ วัด หรืออาศรม เพื่อที่จะจ่ายหนึ่งในสิบ ของคุณอย่างถูกต้อง ไม่ ไม่ ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่เคยได้ยินเล่าจื๊อพูด ถึงว่าคุณต้องถวายหนึ่งในสิบ – หนึ่งในสิบของรายได้ของคุณ หรือหนึ่งในสิบของทรัพย์สินของคุณ หรืออะไรทำนองนั้น ไม่ บางทีในบางประเทศในเวลาต่อมา เมื่อพวกเขาขัดสน อย่างสิ้นหวัง อยู่ในสงคราม ความอดอยาก หรือ อะไรทำนองนั้น บางที อาจารย์บางคนอาจจะบอก ให้เหล่าสาวกทำเช่นนั้น แต่ไม่ใช่เพื่อให้ท่านได้กิน ใช้จ่าย หรืออยู่อย่างฟุ่มเฟือย

ศาสดามุฮัมมัด ขอสันติสุขจงมีแด่พระองค์ – ในหะดีษ ฉันอ่านเจอว่า บางทีพระองค์อาจบอกบรรดา ผู้ติดตามว่าพวกเขาให้ได้ พวกเขาเรียกว่า “ซะกาต” แค่หนึ่งในสิบ – เช่นเดียวกับ การบริจาคทรัพย์สินบางส่วน เงินทอง ความมั่งคั่ง การกุศล เพื่อช่วยเหลือ ผู้อื่นที่ด้อยโอกาส เมื่อพระเยซูเจ้าทรงพระชนม์ พระองค์ไม่เคยขอหนึ่งในสิบใด ๆ เลย พระองค์ไม่เคยขอสิ่งใดเลย พระองค์เดินเท้าเปล่าและสวม เสื้อผ้าที่เรียบง่ายมาก และเมื่อพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ก็ไม่มีใครถามเช่นนั้น ถ้าใครอยาก จะบริจาคให้ คณะสงฆ์ก็ทำไป ไม่อย่างนั้นพระพุทธเจ้า ก็จะทรงใช้อานุภาพใน การรู้ว่าสมบัตินั้น อยู่ที่ไหน และบอก ผู้บริจาคบางส่วนให้ ไปเอามันมา เช่นนั้น แต่ไม่ใช่เพื่อให้พระพุทธเจ้า อยู่อย่างฟุ่มเฟือย – ไม่ พระองค์ทรงอาศัยอยู่ในกระท่อม!

เขาเรียกมันว่าห้องน้ำหอม เหมือนกับห้องอื่น ๆ หรือกระท่อมอื่น ๆ คงจะโดดเดี่ยวกว่านี้อีกหน่อย ไม่ใช่อยู่ท่ามกลาง คณะสงฆ์หรือที่สาธารณะ แต่ก็เป็นเพียงห้องเดียว กับห้องอื่น ๆ ที่พวกเขา จะมีสำหรับคณะสงฆ์ได้ บางครั้งพวกเขามีห้อง ไม่เพียงพอ พระพุทธเจ้ายังทรงถาม หรือพระองค์อาจจะไม่ได้ถาม แต่มีมีพระอาวุโส ผู้ยิ่งใหญ่บางรูป มาที่อาศรมที่ซึ่ง พระพุทธเจ้าและหมู่สงฆ์ พระสงฆ์อาศัยอยู่ และมันมีห้องไม่เพียงพอ ราหุลโอรสของพระองค์จึง ต้องไปนอนในห้องน้ำ ฉันหวังว่าตอนนั้น ห้องน้ำจะดี ราหุลผู้น่าสงสาร พระพุทธเจ้าเข้มงวดกับพระองค์มาก เพราะพระพุทธเจ้า ต้องการให้พระองค์เป็นเลิศ รู้ว่าวัยรุ่นและ เด็กมีปฏิกิริยาอย่างไร ฉันก็รู้สึกเสียใจกับ โอรสของพระพุทธเจ้าด้วย เพราะว่าเขายังเด็ก และต้องกินอาหารมื้อเดียว เหมือนคนอื่น ๆ ฉันรู้สึกเสียใจกับราหุลจริง ๆ แต่นั่นเป็นวิธีการ พระพุทธเจ้าทรงยุติธรรมและเที่ยงธรรม พระองค์ไม่เคยปฏิบัติ ต่อใครเป็นพิเศษ

แม้แต่พระอานนท์ พระอานนท์ เป็นอุปัฏฐากที่ดีที่สุดของพระองค์ ใกล้กับพระองค์เสมอ ทรงทำสิ่งสารพัดเพื่อ พระพุทธเจ้า และยังจดจำ เรื่องราวทั้งหมด พระธรรมเทศนา ทั้งหมดของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้ ปฏิบัติต่อท่านเป็นพิเศษ และพระอานนท์ก็ไม่ต้องการได้รับ การปฏิบัติเป็นพิเศษเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่ที่ประชุมจะลงมติ ให้ท่านเป็นอุปัฏฐาก ของพระพุทธเจ้า ท่านได้ถามเงื่อนไข บางประการก่อนที่จะตอบรับ เช่นก่อนที่ท่านจะ รับตำแหน่งเป็นอุปัฏฐาก ของพระพุทธเจ้า ท่านได้บอกที่ประชุม ว่าไม่อนุญาตให้ท่าน เอาผ้าที่เหลือจาก พระพุทธเจ้าหรือได้รับการถวายแด่ พระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้า ทรงประสงค์จะแจกจ่ายพวกมัน หรือท่านไม่สามารถฉันจาก บาตรของพระพุทธเจ้า เพราะในบาตร ของพระพุทธเจ้ามีของ อร่อยหรืออาจจะเป็น อาหารอันเป็นมงคลและ ของดีทั้งหลายเหล่านั้น ดังนั้น ท่านไม่ต้องการฉัน จากบาตรของพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่นนั้น กล่าวคือ ท่านต้องการ ให้ที่ประชุมทราบและ ยอมรับเงื่อนไขของท่าน ว่าท่านไม่ต้องการผลประโยชน์ จากตำแหน่งเป็น อุปัฏฐากของพระพุทธเจ้า เพราะนั่นคือ สำคัญมาก นั่นเป็นตำแหน่งเดียว พระอานนท์เข้าใจ เพราะ พระพุทธองค์ทรงชอบท่าน ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้า ทรงโปรดปรานท่าน เพียงแต่ว่าพวกท่าน มีบุญสัมพันธ์ต่อกัน มาหลายชาติมาก

ถ้าคุณอ่านเรื่องราวทางพุทธศาสนา คุณจะรู้ว่าพระพุทธเจ้ากับ พระอานนท์มักจะอยู่ด้วยกัน ชาติแล้วชาติเล่า ทำหลาย ๆ อย่างร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ แม้ว่าในขณะนั้นพระพุทธเจ้า จะไม่ปรากฏอย่างเปิดเผย ว่าเป็นพระพุทธเจ้าก็ตาม แต่พระพุทธเจ้า ก็ทรงเป็นพุทธะ มาช้านานแล้ว พระเทวทัตก็อยู่กับ พระพุทธเจ้ามานานแล้ว แต่มักจะอยู่ที่นั่นเพื่อ ทำร้ายพระพุทธเจ้า ขัดขวางพระพุทธเจ้า ก่อ ความเดือดร้อนให้พระพุทธเจ้า ได้เป็นพระพุทธเจ้า หรือเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ ไปสู่ความเป็นพุทธะ พระเทวทัตก็อยู่ที่นั่นเสมอ อยู่ในเงามืดหรือ ที่ไหนสักแห่งใกล้ ๆ เพื่อทำร้ายพระพุทธเจ้า และทรงทำสิ่งอื่น ๆ มากมาย เช่น ใส่ร้ายพระองค์ โฆษณาชวนเชื่อในทางที่ ไม่ดีต่อพระพุทธเจ้า และ โฆษณาชวนเชื่อที่ดีแก่ตนเอง พระเทวทัต ยกตัวอย่าง เป็นต้น

คงเป็นเพียงระบบในโลกนี้ ที่ใครก็ตามที่มาเป็นอาจารย์ได้ ก็ย่อมมีลูกน้องของ มายาบางคนที่ถูกแต่งตั้ง ไว้ใกล้ท่าน เคียงข้างท่าน คอยขัดขวางท่าน สร้างความเดือดร้อนแก่ ชีวิตของท่านและความสำเร็จทาง จิตวิญญาณของท่านเช่นกัน การเป็นพระพุทธเจ้าใน โลกนี้เป็นเรื่องยากมาก ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้ายัง ไม่เป็นพุทธะ แต่เพียงว่า พระองค์ต้องเสด็จลงมา สร้างสัมพันธภาพกับสรรพสัตว์ อื่น ๆ เพื่อกลับมาเป็น พระพุทธเจ้า แล้วเมื่อพระองค์ มีฤทธิ์เพียงพอ พระองค์ก็ จะสามารถปลดปล่อยพวกเขาได้ นั่นเป็นเหตุผล นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม อาจารย์บางคนกลับไปกลับมา – จากนิพพานกลับมายังโลก แล้วกลับไปสู่พระนิพพาน อีกครั้ง ทุกข์มาก ทุกข์มาก ทุกข์มากนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครมองเห็น...ไม่มาก

Photo Caption: ฮีโร่ที่มีคุณค่าและความงาม ในหัวใจของประวัติศาสตร์!

ดาวน์โหลดรูปภาพ