ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

กระทำอย่างกล้าหาญเพื่อโลกวีแกน! ตอนที่ 4 ของ 5

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม

ได้โปรด ช่วยโลกพร้อมไปกับฉัน ช่วยเหลือสัตว์ ที่กำลังทุกข์ทรมาน ที่ไม่มีใครให้พึ่งพา ไม่มีใครปกป้องให้พวกเขา ไม่มีเสียงที่จะพูด ที่จะร้องด้วยความทุกข์ทรมาน ทุกครั้งฉันทนไม่ได้

ฉันอยู่บนภูเขา ที่ชื่อ หยางหมิงชาน มันเป็นอุทยานแห่งชาติ สวยงาม อยู่ห่างไกล ฉันอาศัยอยู่ในเต็นท์ มันหนาวมาก หนาวมาก หนาวมาก หนาวมาก มาก มาก มาก แต่มันไม่รู้สึกว่า ภูเขานั้นสูงมากนัก เพราะว่าคุณ ขับรถขึ้นไปเรื่อย ๆ ทางลาดค่อย ๆ ขึ้นไป ดังนั้นเมื่อคุณ อยู่บนยอดเขา คุณไม่รู้สึกว่ามันสูงมาก และบางส่วนของยอดเขานั้น เป็นที่ราบ ดังนั้น นานมาแล้ว บางคนก็มีบ้าน บนเขานั้น ปัจจุบันนี้พวกเขาไม่ได้รับอนุญาต ให้สร้างอีกแล้ว แน่นอน เพราะว่ามันกลายเป็น อุทยานแห่งชาติ มันกลายเป็นที่ราบ ฉันมีสิ่งที่เรียกว่าบ้าน หลังเล็ก ๆ บนภูเขาหยางหมิงชาน และคุณต้องเดิน เป็นระยะทางไกลมาก ขับรถขึ้นไปถึงข้างบนแล้ว ก็ยังต้องเดินขึ้นไปตามขั้นบันไดอีก ฉันไม่รู้ว่า มันเดินขึ้นไปกี่พันขั้น หรืออย่างน้อยหลายร้อยขั้น แล้วก็เดินอีก ขั้นบันไดและเดินอีก ฉันไม่รู้ว่ามันไกลแค่ไหน อาจจะอย่างน้อยใช้เวลา... มีใครจำได้บ้าง? ( 20 นาที ) 20 นาที จากข้างล่างนั้น จากหลังคาของห้องประชุมพวกคุณ มันใช้เวลา 20 นาทีถ้าคุณเดิน ถ้าฉันเดิน ก็ใช้เวลาอย่างน้อย 40 นาที ฉันถามพี่ชายชาวไต้หวัน(ฟอร์โมซา) ของพวกคุณ เขาบอกว่า ใช้เวลา 20 นาที แต่เราอยู่ข้างบนแล้ว แล้วเราต้องเดิน ขึ้นไปอีก 20 นาที ฉันบอกว่าเขาใช้เวลา 20 นาที สำหรับฉันอาจจะ 30-40 นาที หรือหนึ่งชั่วโมง ผู้ช่วยบางคนของฉันบอกว่า หนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเดิน แล้วเธอยังต้อง หยุดพักในระหว่างนั้น

ที่นั่นไม่มีอะไรเลยจริง ๆ แต่เป็นแผ่นดินที่ราบผืนใหญ่ ใหญ่พอสำหรับฉัน มันยังมีกอไผ่ บนนั้นอีกด้วย ที่ราบ และลูกศิษย์ไทเป ไต้หวัน(ฟอร์โมซา) ทำให้ฉันประหลาดใจ ด้วยบ้านแบบ 6 มุม และมีห้องนอน ซ่อนอยู่ข้างบน แล้วก็ชั้นล่าง กว้างใหญ่... ใหญ่พอสำหรับฉัน แน่นอน ฉันคนตัวเล็ก ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาสร้างอะไรใหญ่ ๆ มันก็เหมือนศาลา คุณก็เห็นว่าบางครั้ง ในรายการทำอาหารของฉัน หรือบางรายการ ที่พวกเขา โชว์ให้เห็นตรงที่ ฉันทำภาพวาดบนศาลานั้น แล้วก็ชั้นบน มีห้องนอนเล็ก ๆ พวกเขายังทำ ระบบน้ำพ่นฝอย ไว้บนหลังคาอีกด้วย เพราะพวกเขาน่ารักมาก พี่ชายคนหนึ่งของพวกคุณ เขาไปอยู่ออสเตรเลีย กับครอบครัวเขาแล้ว แต่เขาสร้างบ้านนั้น กับพี่ชายพี่สาวคนอื่น ๆ ที่มาจากไทเปหรือที่อื่นด้วย แต่ส่วนใหญ่เขาเป็นคนทำ เขาเป็นนักสร้าง ดังนั้นเขาทำได้

พวกเขาสร้างระบบพ่นฝอย ไว้บนหลังคา เพราะพวกเขาได้ยินครั้งหนึ่ง ฉันพูดว่าฉันชอบฝน ดังนั้นมันคือระบบฝนวิเศษ ที่เขาทำสำหรับฉัน มันยังทำให้หลังคาเย็นลงด้วย ในฤดูร้อน ดังนั้นเราไม่มีเครื่องปรับอากาศ หรืออะไรเลย ฉันจำไม่ได้แล้ว เรามีพัดลม และฉันทำอาหารบนศาลานั้น ศาลานั้นว่างเปล่าทั้งหมด ไม่มีมุ้งลวด ไม่มีประตู ไม่มีอะไร และฉันจำได้ว่า ยุงมากมาย อยู่ในดงไผ่นั้น แต่ยุงไม่เคยกัดฉัน ไม่เคย แต่ฉันจำไม่ได้ว่า ผู้ช่วยที่อยู่ใกล้ฉัน มีใครที่ เคยโดนยุงกัดบ้าง แต่ฉันเห็นยุง วาว! ยุงเป็นฝูง ฝูงใหญ่ ๆ อยู่ในที่ต่าง ๆ ในดงไผ่ ฉันเห็นอย่างนั้น แต่ฉันก็เห็นไม่กี่ครั้ง เพราะฉันไม่ได้สังเกตดู เพราะพวกยุงไม่ได้รบกวนฉัน มันก็ตลก ในทุกวันนี้ ยุงกัดฉันในเมืองด้วยซ้ำ ไม่ว่าที่ไหน มันตลก ฉันไม่รู้ว่า เลือดของฉันกลายเป็นหวานขึ้น หรือว่ากรรมของฉัน ดึงดูดมากขึ้น อาจเป็นทั้งสองกรณี

ฉันชอบที่นั่นจริง ๆ เวลาที่ฉันขึ้นไปที่นั่นเมื่อก่อน ฉันยัง ไม่มีลูกศิษย์มากมาย ฉันทำงานเพื่อผู้ลี้ภัย จากตรงนั้น แล้วก็ลงมา นั่นแหละ ฉันจึงต้องทิ้งสถานที่นั้น ฉันไม่อยาก จากสถานที่นั้นไป ฉันรู้สึกเหมือนว่า ฉันได้ปล่อยวางมาก ๆ จากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก จากอะไรก็ตามที่ฉันต้องการ มันเป็นสถานที่เรียบง่ายมาก มีแค่ห้องนอน ฉันจำไม่ได้ว่ามีเตียงหรือไม่ แค่นอนบนพื้นนั้น และมันยังมี ระบบเชื่อมต่อน้ำ เป็นไฟฟ้าด้วยซ้ำ ไม่น่าเชื่อใช่ไหม?

ผู้มีพลังวิเศษ คนกลุ่มนี้ ฉันจำได้ เขาเป็นนักสร้าง เขาเป็นคนมีเงิน มีครอบครัว พวกเขาไม่สามารถถวายเงินให้ฉัน ฉันไม่รับ ดังนั้น พวกเขาขึ้นไปที่นั่น ที่นั่นเป็นที่ดินส่วนบุคคล ฉันคิดว่าอย่างนั้น ฉันไม่ได้ถาม ฉันสันนิษฐานว่า มันเป็นที่ดินส่วนบุคคลเพราะว่า มีต้นไผ่ขึ้นที่นั่น เป็นดงไผ่ที่กว้างใหญ่ และยังมี ต้นผลไม้อื่น ๆ อีกด้วย นั่นเป็นสมัยก่อน ตอนที่มีผู้คนอยู่ตรงนั้นแล้ว ก่อนที่มันกลายเป็นอุทยานแห่งชาติ และก็แน่นอนที่ รัฐบาลยังคง อนุญาตให้พวกเขา เพาะปลูกอะไรต่าง ๆ หรือสร้างกระท่อมเล็ก ๆ ได้ พวกเขาไม่สามารถ สร้างบ้านใหญ่โต คอนกรีต ซีเมนต์อะไรแบบนั้น แต่ถ้ากระท่อมไม้ไผ่หลังเล็ก ๆ โอเค ปัจจุบันนี้ฉันได้ยินว่า นานแล้วที่พายุไต้ฝุ่น ทำลายที่บางแห่ง และพวกเขาอยากจะ ขึ้นไปซ่อมแซมมัน แต่ฉันบอกว่า “ทำไม? ทางมันไกลขนาดนั้น ยากมากที่จะ นำวัสดุและอื่น ๆ ขึ้นไป ดังนั้นลืมมันซะเถอะ” ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีโอกาส ได้อยู่หรูหราที่นั่นอีก ดังนั้นฉันไม่อยากให้พวกเขา เสียเวลา ใช้เวลาไปนั่งสมาธิดีกว่า ฉันบอกพวกเขาอย่างนั้น ฉันไม่แน่ใจว่าระหว่างนั้น พวกเขาแอบขึ้นไปซ่อมมันหรือเปล่า สำหรับเป็นที่ระลึก สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป เมื่อฉันตายไปแล้ว แล้วพวกเขาอาจจะขายตั๋ว ให้ขึ้นไปเยี่ยมชมที่นั่น “นี่ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ อาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน ดูสิ นี่คือรองเท้าของท่าน และนั่นคือที่ที่ท่านทำอาหาร” นั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำ กับบ้านหรือที่พำนัก ของคนตาย ฉันนึกดูว่าอาจจะ มีฝูงชนเดินขึ้นไป ตามขั้นบันไดที่ลำบากนี้ และระยะทางไกล แล้วไปสักการะ ถ่ายรูปหรือสัมผัส แตะที่นั่นที่นี่ เพื่อรับพร อาจจะพวกเขาสร้างรูปปั้นของฉัน ยืนอยู่กลางห้อง หรืออะไรบางอย่าง ทักทายนักท่องเที่ยว นั่นเดิน 20 นาที จากบนยอดเขา ที่คุณจอดรถ ไว้ตั้งไกลแล้ว เพราะรถของคุณขึ้นไปไม่ได้ แล้วคุณต้องปีนขึ้นไป หลายร้อยขั้น และยังต้องเดิน ไปอีกไกล

ฉันเคยมีห้องเก็บของเล็ก ๆ ที่นั่น ขนาดสองคูณสองเมตร พวกเขาใช้แผ่นโลหะบางอย่าง มาปิดรอบ ๆ แค่ล้อมรอบ แล้วใส่หลังคาไว้ข้างบน ฉันเคยอยู่ที่นั่น ใกล้ลำธาร เรามีลำธารตรงนั้น นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบ เวลานั้นฉัน มีเงินไม่มาก เราซื้อที่ดินตรงนั้น ยืมเงินบางส่วน จากพี่ชายคนหนึ่ง ฉันจ่ายคืนแล้ว แม้ว่าเขา ไม่ต้องการ แต่ฉันก็จ่ายคืน ฉันบอกว่า “ฉันไม่รับสิ่งใด ดังนั้นโปรดรับคืนไป” มันไม่มาก เงินจำนวนน้อยมาก ซื้อสถานที่เล็ก ๆ นั้น แต่เราไม่ได้รับอนุญาต ให้สร้างอะไร ดังนั้นแค่แผ่นโลหะไม่กี่อัน นำมาต่อกัน ทำให้มันเป็น ห้องสี่เหลี่ยม และอีกไม่กี่แผ่นบนหลังคา ง่ายที่จะรื้อถอนได้ทุกเวลา แล้วเรามีเต็นท์ใหญ่หลังหนึ่ง เต็นท์ผ้าใบ ทำด้วยไม้ไผ่ อะไรก็ตามที่เรามี ถึงแม้เวลานั้น เราก็ทำงานแล้ว

เราเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่ก็ทำงานกันแล้ว เราแจกใบปลิว หรือข่าวในใบปลิวเล็ก ๆ สำหรับคนทั่วไปหรือลูกศิษย์ ดังนั้นพวกเขา ได้เรียนรู้คำสอนต่อเนื่อง และมีแรงบันดาลใจ มีกำลังใจนั่งสมาธิต่อไป และรักษาการกิน(อาหาร)วีแกน เวลานั้นมันคือมังสวิรัติ แต่ฉันก็ไม่ดื่มนมอยู่แล้ว และไม่เคยคิดว่านม เป็นสิ่งที่ไม่ดี ภายหลังฉันเห็นความทารุณ ความเสียหาย ความไร้มนุษยธรรม ในการขังวัวในคอกเล็ก ๆ ไม่มีที่ให้ขยับตัว หรือหันไปทางไหนได้เลย และล่ามโซ่และอื่น ๆ โอ พระเจ้า! แล้วฉันก็ ไม่อนุญาตพวกเขาดื่มนม อีกต่อไป แม้ว่านมอาจจะ ถือว่าเป็นมังสวิรัติ มันไม่ใช่การฆ่า แต่ก็นั่นแหละ การปฏิบัติกับวัว ไร้มนุษยธรรมมาก มันไม่เหมือนกับแบบที่ฉันเห็น ในประเทศของฉัน เอาหลัก (เวียดนาม) เราไม่ทำอย่างนั้น วัวตัวเมียหรือตัวผู้ พวกเขาเดินอย่างอิสระในทุ่งหญ้า และพวกเขาอาจจะ ช่วยทำงานหนัก บรรทุกของให้เกษตรกร หรือไถนา ตามฤดูกาล เป็นบางครั้งบางคราว พวกวัวมีที่อยู่ของตัวเอง วัวเข้าไปในนั้น และตอนเช้าก็ออกมา กับเด็กเลี้ยงวัว แล้วไปเล็มหญ้า ส่วนใหญ่ได้รับการดูแลดี กินอิ่มและสบาย เพราะว่าชาวนา ในบางพื้นที่เขตชนบท พึ่งพาวัวทั้งตัวเมียและตัวผู้ ดังนั้นจึงปฏิบัติต่อวัวอย่างดี ไม่เคยมีการโบยตี หรือบังคับอะไร ไม่ใช่อย่างที่ฉันเห็น

และเมื่อฉันอยู่อินเดีย ฉันเห็นวัววิ่งไปได้ทั่วทุกแห่ง เหมือนกับคน และถ้าบังเอิญวัว นอนหลับกลางถนน หรือแม้แต่ไฮเวย์ รถทุกคันจะหยุด คุณรู้ใช่ไหม? แม้ว่าคุณไม่เคยเห็น คุณดูในหนัง ฉันเห็นกับตาตัวเอง ทุกแห่งที่ฉันไปในอินเดีย วัวได้รับความรักและการเคารพ เหมือนกับคน พวกเขากระทั่งสัมผัสเท้าวัว หรือแตะส่วนท้ายของวัว แล้วใช้มือ มาวางบนหน้าผากพวกเขา เป็นสัญลักษณ์ของความเคารพ เพราะว่าในอินเดีย ตามศาสนาฮินดู วัวมีความศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาให้นมแก่เด็ก ๆ สมัยโน้นเราไม่มีโรงงาน หรือตัวเลือกมากมาย ดังนั้นวัวให้นม แก่เด็ก ๆ มากมาย และทำให้พวกเขาเจริญเติบโต ดังนั้น พวกเขาถือว่าวัว เหมือนตัวแทนของแม่ เหมือนแม่คนที่สองในอินเดีย ในสมัยนี้ก็เช่นกัน พวกเขายังทำอย่างนั้น ตอนที่ฉันอยู่ที่นั่น พวกเขาทำอย่างนั้น พวกเขาเลี้ยงดูวัวเช่นกัน ด้วยสิ่งที่พวกเขามี บางครั้งพวกเขามี เศษผักที่เหลือ ก็จะโยนมันไปที่ถนน วัวก็มากิน และวัวเดินไปได้ทุกที่ อย่างอิสระ และผู้คนยังต้อง ให้ทางแก่วัว ไม่ใช่วัวต้องให้ทางพวกเขา รถทุกคันจะหยุดจนกว่า วัวตื่นจากการพักผ่อน และลุกขึ้นและเหยียดตัว และเดินอย่างสบาย ไปที่ทุ่งหญ้าใกล้ ๆ นั้น หรือที่ติดถนนและเล็มหญ้าที่นั่น หรือนอนที่นั่น นั่นคือสิ่งที่ฉันเห็น

ดังนั้นฉันไม่เคยคิดว่า นมจะเป็นสิ่งอันตรายได้เลย และอีกอย่าง ฉันศึกษาศาสนาพุทธเมื่อก่อน ตอนที่พระพุทธเจ้า ออกจากสมาธิในตอนแรก พระองค์ร่างกายอ่อนแอมาก เพราะพระองค์ปฏิบัติ อดอาหารตามแนวที่สุดโต่ง ซึ่งพระองค์ เรียนมาจากบางคน พวกเขาบอกว่า ต้องอดอาหารจริง ๆ ไม่กิน ไม่ดื่ม และอื่น ๆ นั่งสมาธิอย่างเดียว แล้วพวกเขาจะไปถึงนิพพาน ภายหลังพระพุทธเจ้าทรงตระหนักว่า มันผิด แล้วพระองค์ก็ออกมาจากตรงนั้น และคนแรกที่ พระองค์เห็น คือสตรีที่ถวายนมวัวให้พระองค์ดื่ม นั่นแหละ พระองค์จึงมีกำลังกลับคืนมา แล้วพระองค์ ทรงศึกษาและปฏิบัติต่อไป ฉันจึงคิดว่า นมก็โอเค แต่ภายหลังเมื่อฉันเห็น อุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์สมัยใหม่ มันทารุณมาก โหดร้ายมาก น่าสยดสยอง ป่าเถื่อนมาก ดังนั้น แน่นอนเราจึงไม่กินอีกต่อไป และถ้าพวกคุณ ใครที่ยังไม่เข้าใจ คุณก็ต้องดูสารคดีเหล่านี้ เช่น “โดมิเนียน” ดูสารคดีของพีต้า ดู “เอิร์ธลิงก์” ดู “คาวสไปเรซี่” เราโฆษณาพวกเขาฟรีอยู่แล้ว ในโทรทัศน์ของเรา โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ และคุณสามารถดูได้จาก เน็ตฟลิกซ์ สารคดีแบบนี้เกี่ยวกับ การกระทำที่โหดร้าย ทารุณ การปฏิบัติที่ไม่สมควรอย่างที่สุด ที่มนุษย์ ทำต่อสัตว์ผู้บริสุทธิ์ อ่อนโยน ไร้ทางสู้ ไร้ทางป้องกันตัวเอง คุณให้เพื่อน ๆ ของคุณดู ดูพร้อมกับพวกเขา แม้ว่าคุณจะต้องร้องไห้ และคุณจะกรีดร้อง เมื่อเห็นความทรมานของพวกเขา แต่คุณ ดูกับเพื่อน ๆ ของคุณ คนที่ยังกินเนื้อสัตว์ และดื่มแอลกอฮอล์ ดื่มแล้วขับรถด้วยซ้ำ และอื่น ๆ คุณให้พวกเขาดู ผลลัพธ์ทั้งหลายนั้น ฉันรู้ว่ามันน่ากลัว ฉันยังดูโดย ไม่กรีดร้องไม่ได้ด้วยซ้ำ บางครั้งฉันต้อง ดูหลายตอน เพื่อให้จบม้วน เพื่อที่ฉันจะสามารถบอกคุณ เพื่อที่ฉันจะสามารถบอกพวกเขา ให้โฆษณามัน ในโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ของเรา เราไม่โฆษณาทั้งหมด ที่โหดร้ายทารุณ เพราะว่ามันอ่อนไหวเกินไป สำหรับเด็ก ๆ แต่เราโฆษณาสารคดีของพวกเขา ชื่อเรื่องของสารคดี เพื่อที่คนดูจะสามารถค้นหา และดูมันเองได้ และเพื่อที่คุณจะให้คนอื่น ๆ ดูได้ตามที่คุณสามารถ อย่าพึ่งแต่ฉันเท่านั้น อย่าอาศัยแต่ โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์อย่างเดียว เพราะว่าในที่บางแห่ง ผู้คนไม่รู้ว่า ทีวีของเรามีอยู่ อย่าพึ่งแต่พวกเราอย่างเดียว อย่าพึ่งแต่ฉัน เพื่อจะช่วยโลก คุณช่วยโลกไปพร้อมกับฉัน โอเค? (ใช่ค่ะ/ครับ!)

ฉันบอกคุณแล้วว่า 53% มาจากพลังอาจารย์ ผ่านการบรรยายธรรม และผ่านสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านใส่ไปในผู้เป็นพิธีกร ผ่านพระพรของก๊อดเสส พร้อมกัน นั่นคือวิธีที่ โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ อวยพรให้โลก แต่ทุกหยดนับรวมอยู่ในมหาสมุทร ทุกหยดก่อเกิดเป็นมหาสมุทร ดังนั้น ได้โปรด ช่วยโลกด้วยกันกับฉัน ช่วยสัตว์ ซึ่งกำลังทุกข์ทรมาน โดยไม่มีใครให้พึ่งพา ไม่มีใครปกป้องพวกเขา ไม่มีเสียงที่จะตะโกนบอก กรีดร้องเพราะความทรมาน ทุกครั้งฉันดูฉันทนไม่ได้ หลายครั้งที่ฉัน ต้องปิดกั้นการรอบรู้ของฉัน มิฉะนั้นฉันจะร้องไห้ทั้งวัน และทุกข์ทรมานมาก รู้ถึงความทุกข์ทรมาน ของสัตว์

ฉันต้องปิดกั้นในบางครั้ง มิฉะนั้นฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันไม่สามารถทำงาน ให้โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ ไม่สามารถทำงานให้พวกคุณ ไม่สามารถทำงานให้โลก ฉันต้องเข้มแข็งและอดทน แต่ฉันไม่ได้เข้มแข็งเสมอ ฉันร้องไห้บ่อยครั้งในมุมห้องของฉัน ถ้ำของฉัน เพียงลำพัง ฉันร้องไห้บ่อยครั้ง เพื่อปลดปล่อยความทุกข์ใจ ฉันได้แต่ร้องไห้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องคิด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ฉันกำลังร้องไห้ ได้โปรดช่วย ช่วยวิธีใดก็ตามที่คุณทำได้ ให้เพื่อน ๆ ของคุณ เห็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ ของอุตสาหกรรมสัตว์ ของมนุษย์เรา ที่ไม่มีมนุษยธรรม ไม่มีคุณสมบัติความเป็นมนุษย์ ไม่มีความเมตตา ไม่มีความสงสาร เราสูญเสียทุกสิ่ง ถ้าเราสูญเสียความรัก

รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
2024-12-27
339 รับชม
36:29

ข่าวเด่น

17 รับชม
2024-12-27
17 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์